แมวพันธุ์อเมริกัน เคิร์ล (American Curl)
ลักษณะภายนอก
โดยทั่วไปแล้วแมวชนิดนี้มีสัดส่วนที่ดูดีและมีลำตัวที่ผอมเพรียว ขนของแมวพันธุ์นี้มีลักษณะนุ่ม มีเนื้อสัมผัสเหมือนผ้าไหม เบา และไม่มีขนชั้นใน อย่างไรก็ดี เนื่องจากมีการนำแมวมาผสมข้ามสายพันธุ์ ทำให้เราสามารถพบแมวชนิดนี้ได้หลายสี และพบได้ทั้งชนิดขนยาวและขนสั้น
หูของอเมริกัน เคิร์ลมีขนาดใหญ่ปานกลาง โดยมีฐานที่กว้างและมีลักษณะเปิด อีกทั้งยังมีปลายหูที่หยักศก ถ้าจะให้ดี หูของแมวไม่ควรงอไปด้านหลังจนแตะกะโหลกศีรษะ แต่ควรงอไปด้านหลังและชี้เข้าหากันโดยทำมุม 90 องศา ซึ่งมีลักษณะคล้ายพระจันทร์เสี้ยว
เริ่มแรกนั้นลูกแมวมีลักษณะที่ดูเหมือนกับแมวตัวอื่นๆ แต่มีใบหูขนาดใหญ่และมีลักษณะเปิด ภายใน 1 สัปดาห์ หูของแมวจะงอไปด้านหลัง ขดตัว และคลายตัวตลอดช่วงเวลานี้จนแมวมีอายุ 4 เดือน หลังจากนั้นหูจะงออย่างถาวร ด้วยเหตุผลนี้ เราควรซื้อแมวพันธุ์อเมริกัน เคิร์ลหลังจากที่มันมีอายุสี่เดือน แต่ทั้งนี้รูปทรงของใบหูก็ไม่ได้ส่งผลต่อลักษณะที่ดีของแมว และการเพาะพันธุ์เพื่อให้ได้แมวที่มีหูลักษณะดังกล่าวนั้นก็เพื่อใช้ในงานประกวดเท่านั้น
นิสัยและอารมณ์
แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่น่ารักและชอบแสดงความรัก อีกทั้งยังปรับตัวได้อย่างง่ายดาย และแม้แต่มีอารมณ์ที่เสถียร นอกจากนี้อเมริกัน เคิร์ลแทบจะไม่ก่อปัญหา หรือรบกวนเจ้าของเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่แมวพันธุ์นี้ชอบเกาะบนไหล่ของเจ้าของ และแสดงความรักโดยถูตัวหรือดุนใบหน้าที่หน้าของเจ้าของ
นอกจากนี้อเมริกัน เคิร์ลยังชอบทักทายเจ้าของโดยการใช้ศีรษะนุ่มๆ ชนลำตัว และชอบเข้าไปในครัวขณะที่เจ้าของทำอาหาร อย่างไรก็ดี แมวพันธุ์นี้ยังเข้ากับครอบครัวและเด็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นแมวที่ฉลาดและมีความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติ รวมถึงใช้เวลาค่อนข้างมากไปกับการสำรวจสิ่งแวดล้อมและเล่นเกม
การดูแล
อเมริกัน เคิร์ลเป็นแมวที่ได้รับการชื่นชมในแง่ของสุขภาพ ความแข็งแกร่ง และความสามารถในการปรับตัว อย่างไรก็ดี แมวพันธุ์นี้แทบจะไม่เจ็บป่วย ลูกแมวมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเช่นกัน และตอบสนองต่อการฉีดภูมิคุ้มกันโรค อย่างไรก็ตาม บางคนสรุปว่าการที่แมวมีหูที่งอนั้นเป็นข้อบกพร่อง แต่ความจริงแล้วมันคือการกลายพันธุ์ ทั้งนี้หูของแมวเป็นลักษณะพิเศษที่งดงามของแมวพันธุ์นี้ ซึ่งทำขึ้นจากกระดูกอ่อนที่แข็งไปจนถึงปลายหู และไม่ได้ส่งผลต่อการได้ยินของแมว
ความเป็นมาและภูมิหลัง
อเมริกัน เคิร์ลสามารถเอาชนะใจคนรักแมวชาวอเมริกันและกรรมการตัดสินในช่วง 10 ปีที่มันปรากฏตัว แมวพันธุ์นี้ถือกำเนิดขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.1981 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีลูกแมวสองตัวที่ไม่มีใครทราบสายพันธุ์และต้นกำเนิดมาอยู่ที่บันไดหน้าประตูบ้านของ Grace Ruga ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่ง Grace สนใจลูกแมวเหล่านี้เพราะมันมีใบหูที่ม้วนไปด้านหลัง และเธอก็วางแผนให้แมวมาอาศัยด้วย ลูกแมวเหล่านี้จะมากินข้าวทุกวันและจากไปตอนกลางคืน
อย่างไรก็ตาม Grace ตั้งชื่อให้ลูกแมวว่า Panda และ Shulamith โดยตั้งชื่อตามลักษณะของเส้นขน ทั้งนี้ลูกแมวอยู่ด้วยกันเสมอมาจนกระทั่ง Panda ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง สุดท้ายแล้ว Shulamith ก็ย้ายมาอยู่กับ Ruga อย่างถาวร ในขณะที่ Panda ไปอยู่กับครอบครัวใหม่
ในเวลาต่อมา ลูกของ Shulamith ก็ได้ให้กำเนิดลูกแมวที่มีหูม้วนเช่นกัน ซึ่ง Grace ได้มอบลูกแมวตัวเมียตัวแรกที่มีชื่อว่า Mercedes ให้พี่สาว หลังจากนั้น Mercedes ก็ให้กำเนิดลูก และทั้งมันและลูกแมวก็ได้รับความสนใจจาก Nancy Kiester ซึ่งเป็นคนขายเนื้อท้องถิ่นและเป็นผู้ที่ชื่นชอบแมว เธอสนใจแมวที่มีหูม้วนพันธุ์นี้ และพยายามแต่งตั้งสายพันธุ์ โดยร่วมมือกับ Grace สุดท้ายแล้ว Shulamith และลูกแมวถูกนำมาโชว์ตัวในงานประกวดแมวในปี ค.ศ.1983 ซึ่งผู้คนต่างก็ยอมรับแมวสายพันธุ์นี้
อย่างไรก็ตาม Nancy และ Grace ก็ได้ร่วมมือกับ Jean Grimm ซึ่งเป็นผู้เพาะพันธุ์แมวและกรรมการที่เพาะพันธุ์แมวพันธุ์สก็อตติช เคิร์ล หรือสก็อตติช โฟลด์ได้สำเร็จ และเป็นผู้ที่ยืนยันว่าแมวพันธุ์นี้แตกต่างจากแมวพันธุ์อื่นๆ เนื่องจาก Jean เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้มีการตั้งชื่อและกำหนดมาตรฐานของแมวที่มีหูม้วนเหล่านี้ และทำให้เกิดแมวพันธุ์อเมริกัน เคิร์ลอย่างที่เราเห็นกัน
ในปี ค.ศ.1987 The International Cat Association (TICA) ยอมรับแมวสายพันธุ์นี้ และในปีต่อมามันก็ได้รับตำแหน่งแชมป์จาก TICA นอกจากนี้ในปี ค.ศ.1986 Cat Fancier's Association (CFA) มอบตำแหน่งแชมป์แบบชั่วคราวให้อเมริกัน เคิร์ลเช่นกัน และในปี ค.ศ.1993 CFA ได้มอบตำแหน่งแชมป์ให้แมวพันธุ์นี้อย่างเป็นทางการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น